|
วัสดุ |
-Base housing ทำจากเหล็กแผ่นปั๊ม ซ้อน 2 ชั้น |
-ก้านด้ามทำจากเหล็กแผ่นหนา เชื่อมกับหัว Ball ชุบแข็ง |
-ส่วนหัวเกียร์ทำจากเหล็กหล่อ รูปร่องนิ้ว |
การใช้งาน |
-หัวเกียร์ เป็นรูปเหลี่ยม ไม่กระชับมือนัก |
-การเข้าเกียร์ ลักษณะขืนมีน้ำหนัก ใช้แรงปานกลาง แม่นยำ |
-ก้านยกเกียร์ถอย ทำจากเหล็กหัวเกี่ยวเป็นพลาสติก |
-การถอยหลัง ใช้วิธีกดปุ่มแล้วเข้าเกียร์สอง ไม่มีความผิดพลาดให้เห็น |
-กลไกเกียร์ถอยน้อยชิ้น และทนทาน |
-ข้อเสียคือเป็นเหล็กชุบโครเมียม มีโอกาสลอก และ อาจจะมีสนิมบ้าง |
ความคุ้มค่า |
-ถ้าใจชอบการขับขี่อารมณ์โหด ดิบ เป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆเช่นกัน |
-ราคาสมเหคุสมผล |
ความเห็น |
ความเห็น :ถ้าไม่ใช่ราคาป้ายแดง สอยซะอย่าลังเล |
|
วัสดุ |
-Base housing ทำจากเหล็กแผ่นปั๊ม ซ้อน 2 ชั้น |
-ก้านด้ามทำจากเหล็กกลึงตลอด ไม่มีรอยต่อ โดยด้านในกลวงไว้สำหรับลวดกลไก |
-ส่วนหัวเกียร์กลมทำจากพลาสติก |
-กลไกเกียร์ถอยมากชิ้น การใช้งานระยะยาวมีความเสียหายสูง |
-บูชที่ล๊อคแกนกลาง เป็นพลาสติก และยึดด้วยหมุด การถอดมาซ่อมแซมทำไม่ง่ายนัก |
การใช้งาน |
-หัวเกียร์ เป็นรูปกลม กระชับมือ |
-การเข้าเกียร์ เบามือเข้าง่าย |
-Ratio 40% มาตรฐานทุกยี่ห้อ คุณภาพและกลไกแต่ละยี่ห้อ เหมือนยังกะแกะ |
-การถอยหลัง ใช้วิธีเอานิ้วเกี่ยวดึงขึ้นแล้วเข้าเกียร์สอง ลักษณะขืนผิดหลักกายภาพ
มีความผิดพลาดให้เห็นบ้าง |
-ด้ามเกียร์เอนชิดขวาตลอด ช่วยให้ผู้ขับขี่ เปลี่ยนเกียร์ง่ายและเร็วขึ้น |
-เหมาะกับใช้งานแค่รถบ้านเท่านั้น ยังไม่ดีพอสำหรับแข่ง |
ความคุ้มค่า |
-ราคาปานกลาง แต่ละยี่ห้อเกรดของวัสดุที่ใช้ไม่เหมือนกัน ตาดีได้ ตาร้ายเสีย |
-เหมาะสำหรับมือใหม่ ที่ขี้เกียจใช้ ด้ามเกียร์ Standard |
ความเห็น |
คุณภาพ เหมาะสมกับราคา ซึ้อซะอย่าขี้เหนียว ดีกว่าเสียค่าแรงเปลี่ยนบูชครั้งละ 500 บาท |
|
วัสดุ |
-Base housing ทำจากเหล็กหล่อ และเหล็กแผ่นประกอบกัน |
-ก้านด้ามทำจากเหล็กกลึงตลอด ไม่มีรอยต่อ โดยด้านในกลวงไว้สำหรับกลไก |
-ส่วนหัวเกียร์กลมทำจากอลูมิเนียมกลึง |
-กลไกเกียร์ถอยซับซ้อน แต่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ |
การใช้งาน |
-การใช้งาน Feeling คือฝาแฝด Gene berg เลย มีให้เลือกทั้งหัวกลม หัวเหลี่ยม |
แบบปุ่มกด หรือแบบนิ้วเกี่ยว ชอบแบบไหนเลือกได้ตามใจฉัน |
ความคุ้มค่า |
-ด้ามเกียร์สัญชาติเยอรมัน เป็นที่โจษขานในวงการทันทีที่วางตลาด |
-ปัจจุบันถ้าเป็นเรื่องคุณภาพ ท้าชิง Gene berg แล้ว แต่ความที่หน้าตายังไม่มี เอกลักษณ์ เลยยังไม่เป็นที่นิยมนัก (เป็นการเลียนแบบที่มีกึ๋น คือเอาข้อเสียของ Shifter อื่นมาปรับแก้ไข ให้มี Pattern ที่ใกล้เคียงกันแต่คุณภาพดีกว่า) |
-ราคาโหดมาก แต่มีทุกรุ่นทุกแบบเหมาะกับการใช้งานทุกประเภท ทั้งแบบบ้านๆ
หรือแบบซิ่ง |
ความเห็น |
-คุณภาพ โค ตะ ระ เยี่ยม เนียบทุกรายละเอียด แต่ยังดูขาดๆเกินๆ เรื่อง Design ประหนึ่งนางสาวไทย แต่ไร้เสน่ห์
|
-ถ้าไม่ถูกหวย อย่าไปสั่งซื้อเชียวนะ น้ำตาร่วงง่ายๆ |
|
วัสดุ |
-Base housing ทำจากอลูมิเนียมเกรดต่ำ เบาและเปราะ |
-ก้าน+ด้ามทำจากอลูมิเนียมหล่อ งานค่อนข้างแย่ ด้านในกลวงไว้สำหรับลวดกลไก |
-ส่วนหัวเกียร์กลมทำอลูมิเนียมหล่อเช่นกัน |
-กลไกเกียร์ถอยเป็นสลิง มีโอกาสขาดสูง |
-ก้าน และฐาน ความที่วัสดุแย่มีโอกาสหักคามือสูง สำหรับพวกซาดิสม์ หรือขับขำๆ ก็วางใจไม่ได้ |
การใช้งาน |
-บางยี่ห้อเป็นสี่เหลี่ยม บางรุ่นทำมาเป็น Grip knob สำหรับมือขวากระชับมือ |
-การเข้าเกียร์ เบามือเข้าง่าย |
-Ratio 40% มาตรฐานทุกยี่ห้อ คุณภาพและกลไกแต่ละยี่ห้อ เหมือนยังกะแกะ |
-การถอยหลัง ใช้วิธีกดปุ่มแล้วเข้าเกียร์สอง |
-ถึงแม้ว่ากลไก ใกล้เคียงกับ Gene berg แต่คุณภาพที่แย่ ทำให้สายสลิงมีการขาดหรือหักในบ่อย
|
ความคุ้มค่า |
-ราคาถูก แต่ละยี่ห้อเกรดของวัสดุที่ใช้ แย่พอๆกัน สามารถหักคามือได้เลย |
-ใส่สวยๆ ดีกว่าไม่มีใส่ |
ความเห็น |
-ถ้าคุณไปเจ้าของมัน เอาไปขัดเชือก เปลญวณ ดีกว่า และกลับมาใช้ด้ามเกียร์ Standard เถอะ |
|
วัสดุ |
-Base housing ทำจากอลูมิเนียมเกรดดีหล่อ |
-ก้านทำจากเหล็กหล่อ แข็งแรง ชุบโครเมี่ยม |
-กลไกลเกียร์ถอยง่ายไม่ซับซ้อน แต่สมบูรณ์แบบ |
-หัวเกียร์ลักษณะ Bone knob ทำจากไม้ |
การใช้งาน |
-นุ่มเบา ราวคันเกียร์เดิม และโค้งเข้าหาตัว ทำให้ง่ายต่อการขับขี่ |
-Ratio 40% การถอยหลัง ง่ายเพียงดันไปซ้ายสุดออกแรง ให้เกินระยะเดิมและเข้ามาที่สอง (สปริงขืนเกียร์ถอย สามารถตั้งได้ตามกำลังแขน และความคุ้นเคย
ของผู้ขับขี่) |
-การเข้าเกียร์ เบามือเข้าง่าย |
-ด้ามมีขนาดไม่หนา จับได้กระชับและเต็มมือ |
ความคุ้มค่า |
-ราคาพอๆ กับ SCAT แต่อารมณ์ที่ได้ Vintage สุดๆ |
-ใช้งานง่ายนุ่มมือ การเปลี่ยนเกียร์เที่ยงตรง
|
-ใช้ Show ดูดีมาก นิยามได้ว่า หรู และ ไฮโซ |
-ใส่สวยๆ ดีกว่าไม่มีใส่ |
ความเห็น |
-ถ้าชอบขับแบบ ชิว ชิว เสมือนด้ามเกียร์ Standard แต่ดูไม่ธรรมดา หามาใส่ซะ |
สำหรับตอนนี้คงสิ้นสุด เพียงแค่นี้ ส่วนราคาค่าตัว ไม่บอกว่าแพง หรือ ถูก ทุกท่านลองดูเงินในกระเป๋า แล้วช่างน้ำหนักความชอบ หน้าตาของแต่ละแบบ แล้วค่ยตัดสินใจอีกทีว่าแค่ไหนถึงพอกับกำลังทรัพย์ในเศรษฐกิจแบบนี้ (ภาคต่อไปอีกไม่นาน จะสาระแน ให้ฟังเรื่อง Rare shifter )